วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2557

ทำไมต้องกินไข่เป็นอาหารเช้า

,
อาหารเช้า
คนที่กินไข่สัปดาห์ละ 4 ฟองมีคอเลสเตอรอลต่ำ กว่าคนที่กินไข่สัปดาห์ละ 1 ฟองหรือไม่กินไข่เลย กลไกที่อาจเป็นไปได้คือ ไข่มีโปรตีนสูงและมีไขมันอิ่มตัวค่อนข้างต่ำ ทำให้อิ่มนาน และความอิ่มนี่เองมีส่วนทำให้กินอาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อ อาหารประเภท "ผัดๆ ทอดๆ" ฯลฯ ลดลง ผู้ร้ายตัวจริงที่ทำให้คอเลสเตอรอลหรือไขมันในเลือดสูงคือ ไขมันอิ่มตัว เช่น กะทิ น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว น้ำมันหมู การกินเนื้อมากเกิน (เนื้อที่เห็นเป็นเนื้อแดงก็มีไขมันแฝงอยู่มาก) ฯลฯ และที่ร้ายที่สุดคือ ไขมันทรานส์หรือไขมันแปรสภาพ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการนำไขมันพืชไปเติมไฮโดรเจน ทำให้เกิดเป็นเนยขาว เนยเทียม ครีมเทียม (คอฟฟี่เมต) ที่ใช้ทำเบเกอรี ขนมกรุบกรอบ อาหารฟาสต์ฟูด แนวทางในการลดคอเลสเตอรอลหรือไขมันในเลือดหลักคือ การลดไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ รองลงไปคือ การออกแรง-ออกกำลังให้มากพอเป็นประจำ และการกินอาหารที่มีคอเลสเตอรอลให้น้อยลง
อาหารเช้า
ไข่แดงช่วยบำรุงสายตา เพราะมีสารลูทีน-ซีแซนทีน ทำให้ความเสี่ยงเป็นโรคตาเสื่อมสภาพ หรือตาบอดในคนสูงอายุลดลง ลูทีน-ซีแซนทีนเป็นสารพฤกษเคมีหรือสารคุณค่าพืชผักกลุ่ม "สีเหลือง-แสด" ช่วยปัองกันจอรับภาพ (retina / เรทินา) โดยทำหน้าที่เป็นตัวกรอง (คล้ายๆ กับเป็นแว่นกันแดดชั้นดี) แสงสีน้ำเงินหรือฟ้า และรังสี UV (อัลตราไวโอเลต / ultraviolet) ทำให้ความเสี่ยง (โอกาสเป็น) โรคตาเสื่อมสภาพ หรือตาบอดในคนสูงอายุ(age-related macular degeneration / ARMD) ลดลง แน่นอนว่า การหลีกเลี่ยงแสงแดดจ้า แสงไฟจ้า หรือการอยู่หน้าจอ TV, จอคอมพิวเตอร์นานๆ เป็นการดีที่สุด ทว่า ถ้าจำเป็นต้องทำงานกลางแดด ชมโทรทัศน์ หรือทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์วันละนานๆ การพักสายตาอย่างน้อยทุกๆ 1-2 ชั่วโมง และการกินอาหารที่มีลูทีน-ซีแซนทีนสูง เช่น ผักใบเขียว (เช่น บรอคโคลี ฯลฯ) ถั่วที่มีสีเขียว ข้าวโพด ฯลฯ ก็ช่วยได้มาก
อาหารเช้า ลดน้ำหนัก
ไข่ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากมีโปรตีนสูง ทำให้อิ่มนาน การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า คนที่กินไข่เป็นอาหารเช้ามีโอกาสลดน้ำหนักและเส้นรอบเอวสำเร็จมากกว่าคนที่กินขนมปังเป็นอาหารเช้า กลไกที่อาจเป็นไปได้คือ ไข่มีโปรตีนคุณภาพสูง ทำให้อิ่มนาน และอย่าลืมว่า ไม่ใช่กินอาหารเท่าเดิมแล้วเสริมไข่เข้าไป แต่ต้องใช้หลัก "อาหารทดแทน" ด้วย คือ กินไข่เข้าไป แล้วลดอาหารอย่างอื่นให้น้อยลงจึงจะได้ผล    

 

โปรตีนลดน้ำหนัก
Read more →

วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557

ทำไมต้องใส่แว่นกันแดด

,
ถนมอดวงตาจากแสงแดด

แว่นตากันแดดไม่ได้มีประโยชน์ด้านแฟชันอย่างเดียวเท่านั้น มันยังสามารถปัองกันการทำลายดวงตาอย่างถาวร จากการเสื่อมสภาพของดวงตาทั้งโรคต้อกระจก ต้อเนื้อ และการทำลายจอประสาทตา แว่นกันแดด ก็คือ "ตัวกันรังสียูวี" หรือที่เรียกว่า "ยูวีปรูฟ" (UV Proof)ซึ่งจะฉาบอยู่ที่เลนส์ของแว่นกันแดด เมื่อแว่นผ่านการฉาบยูวีปรูฟนี้แล้ว เลนส์จะกลายเป็นสีเหลืองอ่อนๆ แต่ที่เห็นเป็นแว่นสีชาหรือสีดำนั้น เป็นการย้อมสีใส่ลงไปเพื่อเพิ่มความสวยงามและเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองแสงเพิ่มเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวฉาบเพื่อป้องกันรังสียูวี  ไม่สามารถตรวจดูได้ด้วยตาเปล่าได้  จะต้องเป็นเครื่องตรวจเฉพาะเท่านั้น ที่จะบอกได้ว่าเลนส์ในแว่นกันแดดนั้นๆ มีประสิทธิภาพป้องกันยูวีได้หรือไม่ 

แว่นกันแดดมีประโยชน์อย่างไร หากจะซื้อเอาไว้สวมกันเป็นแฟชั่น ก็ไม่ต้องคำนึงอะไรมากครับ สวยถูกใจ กับเข้าชุดเก่งของคุณเป็นอันใช้ได้ แต่ถ้าคุณต้องการจะซื้อไปเพื่อ "กันแดด" จริงๆ ควรจะใส่ใจในการเลือกซื้อกันมากสักหน่อยครับ เพราะดวงตาเป็นอวัยวะบอบบางและต้องใส่ใจดูแลรักษาไม่ต่างจากอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกายเหมือนกัน

มีคำแนะนำง่ายๆ ในการเลือกซื้อแว่นตากันแดดมาฝากครับ
1. เลือกที่วัสดุโครงแว่นแข็งแรง ได้มาตรฐาน

2. ต้องฉาบตัวป้องกันรังสียูวี จะเลือกแบบที่ย้อมสีที่เลนส์ให้เป็นสีดำหรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าย้อมก็จะช่วยลดแสงจ้าลงไปได้ราวๆ ร้อยละ70
3 . หากเลือกได้อีกนิด ควรเลือกเป็นเลนส์แบบมัลติโค้ทไปเลย เพราะจะช่วยลดแสงสะท้อนได้ดี โดยเฉพาะหากใส่ขับรถ จะลดแสงสะท้อนจากกระจกหรือจากกันชนโครเมียมได้ดี ซึ่งส่งผลให้ปลอดภัยมากขึ้น


ดูแลดวงตาของคุณด้วยแว่นตากันแดดที่ได้มาตรฐานนะครับ 


สาหร่ายแดง  00123

Read more →

วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2557

กินอย่างไรไม่ให้มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง

,
คอเลสเตอรอลสูงกินอย่างไร
หากท่านไม่อยากให้มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง หรือไม่อยากเป็นโรคหัวใจขาดเลือด แน่นอนหากมีคอเลสเตอรอลสูงเกินไป ก็จะเป็นโรคหัวใจขาดเลือดได้ คงจะมีคำถามในใจต่อไปอีกว่า แล้วโรคหัวใจขาดเลือดมันอันตรายอย่างไร อันตรายของโรคหัวใจขาดเลือดก็คือ ทำให้คนเป็นโรคนี้มีอาการช็อก หมดสติ และเสียชีวิตได้ในที่สุด
    ทำไมจึงมีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง
    การกินอาหารไม่ถูกต้อง
              ชอบกินแต่อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงเป็นประจำ นอกจากนั้นยังชอบกินของมัน ๆ จากสัตว์ เช่น หนังไก่ หมูหัน ขาหมูมัน ๆ เป็นต้น ผู้ที่มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงมักจะเกิดในคนที่มีอายุ 40 กว่า
     กรรมพันธุ์
              ความผิดปกติในด้านกรรมพันธุ์ มีส่วนทำให้เกิดคอเลสเตอรอลสูงได้ สำหรับพวกที่เป็นทางกรรมพันธุ์นี้ อาจจะแสดงอาการผิดปกติตั้งแต่ยังเป็นเด็กอยู่
     โรคบางชนิด
              เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย และโรคตับ เป็นต้น ก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดคอเลสเตอรอลในเลือดสูงได้
    แต่ไม่ว่าคอเลสเตอรอลในเลือดจะสูง จากสาเหตุใดก็ตาม ก็สามารถคุกคามทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัว จนทำให้เป็นโรคหัวใจขาดเลือดได้เหมือนกัน
    จากสาเหตุ 3 ประการที่ทำให้มีคอเลสเตอรอลสูงนั้น จะเห็นว่าการควบคุมเรื่องอาหารเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด ที่เราสามารถจะทำได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมาก เข้าสู่วัยเลข 4 เลข 5 กันแล้ว ควรต้องระวังในเรื่องอาหารการกินไว้บ้าง ทั้งการกินอาหารในชีวิตประจำวันและตามงานเลี้ยงต่าง ๆ ที่ได้รับเชิญ ควรเลือกกิน และกินต่อพอประมาณ ไม่กินอาหารมัน ๆ และอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง การกินอาหารที่ถูกต้องจะมีส่วนสำคัญในการควบคุมระดับคอเลสเตอรอล
    พ่อบ้านที่ขยันออกไปกินข้าวนอกบ้าน พบปะเพื่อนฝูงในวงเหล้ายิ่งต้องระวังจงหนัก เพราะจากข้อมูลการศึกษาพบว่า ผู้ชายจะเป็นโรคหัวใจขาดเลือดมากกว่าผู้หญิง
คอลเลสเตอรอลสูง หัวใจขาดเลือด
    จะทราบได้อย่างไรว่า มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง
      วิธีที่ดีที่สุดจะทราบผลแน่นอนว่ามีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงหรือไม่ ก็คือวิธีการเจาะเลือดตรวจ
      เพื่อวัดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด

    ไขมันก็ใช่แต่จะให้โทษไปหมด ไขมันเป็นอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย ถ้ารู้จักกินแต่เพียงพอ ไม่มากเกินความต้องการของร่างกาย เพราะไขมันเป็นอาหารที่ให้ทั้งพลังงานความร้อนแก่ร่างกาย สามารถนำไปสร้างน้ำดีและสร้างฮอร์โมนได้ และไขมันในร่างกายยังช่วยป้องกันการสูญเสียความร้อนของร่างกาย ไขมันยังให้กรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายสำหรับช่วยให้การเติบโต และสุขภาพของผิวหนังทารกและเด็ก ยังเป็นแหล่งเกิดและช่วยการดูดซึมของวิตามินที่ละลายในไขมัน อย่างเช่น วิตามินเอ ดี อี เค และนอกจากนั้น ไขมันยังช่วยเพิ่ม รส กลิ่น และเนื้อสัมผัสของอาหารให้ดีขึ้น

 


โอเมก้า3 น้ำมันปลา
Read more →

วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

อดนอนสาเหตุความเสื่อมโทรมทางร่างกาย

,
อดนอนสาเหตุร่างกายเสื่อมโทรม
หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่คิดว่า “การอดนอน” เป็นเรื่องธรรมดา หาเวลาไปนอนชดเชยเอาก็ได้นั้น เป็นความเชื่อที่ผิดมหันต์ทีเดียว เพราะเบื้องต้นที่นอกจากจะทำให้ผิวรอบดวงตาและใบหน้าดูหมองคล้ำแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน รวมทั้งเป็นสาเหตุก่อโรคร้ายแรงตามมาอีกมากมาย กล่าวคือ

1. การอดนอนติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น โดยมีลักษณะคล้ายกับอาการของโรคเบาหวาน และควบคุมได้ยาก
2. การอดนอนส่งผลให้การหลั่งฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ลดลง ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่คอยควบคุมความรู้สึกหิวหรืออิ่ม โดยเมื่อระดับเลปตินลดลงก็จะทำให้ความอยากอาหารเพิ่มขึ้นทั้งๆ ที่รับประทานอาหารจนได้รับพลังงานที่เพียงพอแล้วก็ตาม

อดนอนพักผ่อนน้อย

3. การนอนไม่พอ ส่งผลต่อเม็ดเลือดขาวและกลไกการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันของร่างกาย จึงทำให้เจ็บป่วยง่ายเมื่อเจอเชื้อโรคต่างๆ
4. การอดนอนเป็นสาเหตุของโรคอ้วน เพราะส่งผลกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนที่กระตุ้นการเจริญเติบโตทางกายภาพ และคอยควบคุมสัดส่วนของไขมันต่อกล้ามเนื้อในร่างกาย คนที่อดนอนบ่อยๆ จะทำให้ฮอร์โมนชนิดนี้หลั่งน้อยลง แต่ทำให้อยากอาหารมากขึ้น
5. การอดนอนมากๆ จะไปเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งต่างๆ ได้ เนื่องจากเมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอก็จะส่งผลทำให้ฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายทำงานแปรปรวน ซึ่งเป็นสาเหตุก่อโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งเต้านม เป็นต้น
นอกจากสารพัดโรคที่มาพร้อมกับการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอดังกล่าวแล้ว การอดนอนยังมีผลข้างเคียงต่อสภาพร่างกายด้วย คือ ทำให้ร่างกายไม่ตื่นตัว มีอาการปวดหัวระหว่างวัน รวมทั้งทำให้ใบหน้าเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย แน่นอนว่าการป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ อย่าอดนอนโดยไม่จำเป็น แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรปฏิบัติตามวิธีปฏิบัติตัวเมื่อต้องอดนอน ดังนี้
1. กินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบีและซี เนื่องจากการเข้านอนไม่เป็นเวลาจะทำให้ต่อมไพเนียลที่มีทำให้หลับจะปั่นป่วน ร่างกายจึงเกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว จึงควรแก้ด้วยทานวิตามินบีและซี ซึ่งมีสารเซโรโทนินที่ทำให้สมองหายเครียด ซึ่งมีอยู่มากในข้าวกล้อง ผักผลไม้ หรือน้ำผลไม้คั้นสด หรืออาจจะทานวิตามินบี 100 วันละ 1 เม็ด และกินวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม 1 เม็ดหลังอาหารเช้าก็ได้
2. กินมื้อดึกเพื่อเสริมพลังงาน ด้วยอาหารเบาๆ และย่อยง่าย เช่น น้ำเต้าหู้อุ่นๆ โจ๊ก หรือน้ำธัญพืช เป็นต้น ไม่ควรทานอาหารไขมันสูง หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีไขมันอย่างโกโก้ เพราะเป็นอาหารประกอบด้วยไขมันที่ย่อยยาก
3. ไม่ควรแก้ง่วงด้วยเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และเข้านอนอทันทีหลังจากทำกิจกรรมต่างๆ เสร็จหมดแล้ว
4. เมื่ออดนอน ก็ไม่ควรชดเชยด้วยการนอนตื่นสาย เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายเซื่องซึม และสมองล้า จึงควรตื่นนอนตามเวลาปกติแล้วเติมความสดชื่นด้วยวิตามิน หรืออาหารที่ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า จำพวกโสม จะช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกาย และทำให้สมองปลอดโปร่งยิ่งขึ้น



สาหร่ายแดง
Read more →

วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

วิธีถนอมสายตาเวลาอยู่หน้าจอคอมนานๆ

,
วิธีถนอมสายตา
คอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการพักผ่อน คอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นอวัยวะอีกชิ้นส่วนของร่างกายเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลานี้สมาร์ทโฟน และเเท็บเลตการเป็นสิ่งที่ของที่เราขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน ชาวเน็ตทุกคนก็ต่างรู้ตัวกันเป็นอย่างดี ว่าอุปกรณ์ไอทีพวกนี้มีผลกระทบต่อตาของผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก ซึ่งวิธีการต่อไปนี้เป็นอีกข้อแนะนำที่ชาวเน็ตที่อยู่กับอุปกรณ์ไอที ต้องทำตามเป็นอย่างยิ่ง เพื่อสุขภาพของลูกตาคุณ


กะพริบตาให้ถี่ขึ้น
ทุกครั้งที่เราทำงานหรือพักผ่อนด้วยการการดูภาพจากหน้าจออุปกรณ์ไอที อัตราการกระพริบตาจะลดลงจาก 20-22 ครั้งต่อนาที เหลือ 6-8 ครั้ง ต่อนาทีเท่านั้น! การกะพริบตาให้บ่อยขึ้นจึงเป็นอีกวิธีที่ไม่ทำให้ตาคุณแห้งจนเกินไป หรืออาจหาน้ำตาเทียมมาหยอดตาก็ได้เพื่อความชุ่มชื้นของลูกตา
จัดวางระยะห่างคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม
ระยะห่างระหว่างหน้าจอกับตัวเราที่ปลอดภัยที่สุดคือระยะประมาณ 50 - 70 ซม. โดยวัดจากจุดศูนยืกลางของคอมพิวเตอร์ และวัดระดับสายตากับจอคอมพิวเตอร์ให้ห่าง 4 - 9 นิ้ว เป็นอย่างน้อย

เลือกอยู่ในที่เเสงสว่างเพียงพอ
ควรตั้งคอมพิวเตอร์ให้อยู่ด้านข้างของหน้าต่าง เพื่อลดแสงตกสะท้อนบนหน้าจอ และควรปิดไฟบางดวงลงที่รบกวนการใช้งานคอมพิวเตอร์เพราะปัญหาที่พบเกิดจากการที่ตาเราได้รับแสงสว่างมากเกินไป ถ้ามีมูลี่ก็ควรใช้มูลี่ปรับแสงให้ได้ผ่านเข้ามาเพียงบางส่วนเท่านั้น งดใช้เครื่องเฟอร์นิเจอร์ที่มีการสะท้อนแสง

ควรพักสายตาบ้าง
ไม่ว่าคุณจะเล่นอุปกรณ์ไอที ที่มีหน้าจอแบบไหนก็ตาม คุนก็ควรหาเวลาเปลี่ยนอิริยาบถบ้างทุกๆชั่วโมง โดยละสายตาออกจากหน้าจอก มองไปพื้นที่ไกลเป็นเวลา 10-20 วินาที แล้วค่อยกลับมามองระยใกล้ ทำสลับไปสลับมา เพื่อสายตาได้ผ่อนคลาย สำหรับวิธีการบริหารกล้ามเนื้อตามีวิธีการง่าย ดังต่อไปนี้
- กลอกตาขึ้น-ลงช้าๆ 6 ครั้ง เป็นอย่างต่ำ โดยระหว่างการทำอย่าเกร็งลูกตาโดยเด็ดขาด
- กอกตาไปขวา-ซ้ายสุด สลับกันไปมา ทำซ้ำ 3 ครั้งเป็นอย่างน้อย
- ชูนิ้วขึ้นมาห่างจากสายตาประมาณ 8 นิ้วจากระดับสายตา จ้องมองไปที่ไกลๆราว 10 ฟุต สลับกลับใช้ตามองระยะใกล้ที่นิ้วอีกครั้ง ซึ่งใช้เวลามในการมองแต่ละครั้งประมาณ 2-3 วินาที ทำให้ได้ 10 ครั้ง และหยุดพัก 1 วินาที ทำวนไปวนมาประมาณ 3 รอบ
- กลอกตาเป็นวงกลมช้าๆตามเข็มนาฬิกา - ทวนเข็มนาฬิกา ให้ได้ประมาณ 10 ครั้ง และหยุกพัก 1 วินาที่ ทำให้ได้ 3 รอบเป็นอย่างน้อย

    วิธีการถนอมสายตาของคุณที่ดีที่สุด คงไม่อะไรจะดีกว่าการที่คุณลุกจากหน้าจอ วางอุปกรณ์ไอทีทั้งหลายแหล่ลง แล้วเดินออกไปข้างนอก ยิ่งเป็นสถานที่กลางแจ้งยิ่งดี เพราะจะช่วยให้สายตาได้มีโกาสได้สัมผัสกับระดับแสงที่ต่างไปจากห้องที่ออกมา ทำให้สายตาและสมองผ่อนคลายมากขึ้น โดยอาจออกไปเดินเล่นสัก 18 นาที เเล้วค่อยมาทำงานหรือทำกิจกรมผ่อนคลายต่อ


วิธีถนอมสายตา
Read more →

วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2557

สุดยอดโปรตีน แหล่งโปรตีนชั้นยอด ถั่วลันเตา ไข่ และนม

,
โปรตีนลดน้ำหนัก
โปรตีนนูทรีเชค ความเหมือนที่แตกต่าง ปัจจุบัีนโปรตีน มีจำหน่ายหลายบริษัท แต่นูทรีเชค เป็นโปรตีนที่อร่อยที่สุด มีสารอาหารที่พอเหมาะพอดี มีใยอาหารพร้อม ซึ่งคุณไม่ต้องซื้อไฟเบอร์เพิ่ม และมีเวย์โปรตีนสำหรับเสริมสร้างกล้ามเนื้อ โดยคุณไม่ต้องซื้อเวย์โปรตีนเพิ่ม จึงมีราคาถูกกว่า รวมอยู่ในกล่องเดียว ไม่ต้องซื้อผลิตภัณฑ์หลายๆตัว และที่สำคัญที่สุด มีกรดอะมิโนครบถ้วน เพราะเป็นโปรตีนจาก 3 แหล่ง และที่สำคัญนูทรีเชค ยังเหมาะสำหรับ ผู้ป่วยพักฟื้น ร่างกายไม่สามารถทำงานได้ปกติ ต้องการสารอาหารที่ดูดซึมได้ทันที เพราะนูทรีเชค คิดค้นมาเพื่อเป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยพักฟื้น ผู้ที่ผ่าตัดปลูกถ่ายปอดและหัวใจ
โปรตีนจากพืชเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับการเลือกรับประทานโปรตีน
- โปรตีนจากถั่วลันเตา ได้รับสมญานามว่า เป็นราชาแห่งโปรตีนในพืชผัก เสมือนทานเนื้อสัตว์
- เวย์โปรตีน เป็นโปรตีนจากนม ที่มีพลังชีวภาพมากที่สุด
- โปรตีนจากไข่ จากไข่ไก่ที่เพาะเลี้ยงเป็นพิเศษ เพื่อให้มีระดับโอเมก้า 3 และ 6 ที่สมดุล เหมือนกับภายในสมองของมนุษย์
ลดน้ำหนักด้วยวิธีง่ายๆ

ทานโปรตีนนูทรีเชค เพื่อการลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน


โปรตีนชั้นยอด
Read more →

อาหารบำรุงสมอง โอเมก้า3 มีความสำคัญอย่างไร

,
โอเมก้า3 น้ำมันปลา
สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย หากสมองได้รับการดูแลรักษาที่ดีย่อมเป็นผลดีต่อสุขภาพของคนๆนั้น เรื่องอาหารการกินเป็นปัจจัยหนึ่งทีมีผลต่อการทำงานของสมอง การรู้จักเลือกกินอาหารที่มีสารอาหารช่วยบำรุงสมองจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารบำรุงสมองแล้วนำไปใช้ในการซ่อมแซมหรือทำให้การทำงานและสุขภาพของสมองเจริญเติบโตแข็งแรงสามารถทำงานตามหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สารอาหารบำรุงสมองที่ได้จากอาหารบำรุงสมองที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมีหลายชนิด แต่สารอาหารบำรุงสมองที่คนส่วนมากจะรู้จักกันดีคือ โอเมก้า-3 (Omega-3) ที่มีอยู่ในปลาทะเลน้ำลึก นอกจากโอเมก้า-3 แล้วยังมีสารอาหารที่มีคุณสมบัติในการบำรุงสมองชนิดอื่นๆ อีกหลายชนิด
โอเมก้า 3
น้ำมันปลาโอเมก้า 3 เป็นผลิตภัณฑ์แนวหน้าที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนเสริมให้กับทุกคนในครอบครัว เพราะน้ำมันปลาโอเมก้า 3 นี้ (จริง ๆ ท่าจะเรียกแบบเต็มยศต้องเรียกว่า โอเมก้าไมนัสทรี) มีกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายเราสร้างเองไม่ได้ต้องได้จากอาหาร คือกรดไขมันจำเป็น EPA (Eicosapentaenoic Acid) ที่ช่วยลดโคเลสเตอรอล มี DHA (Docosahexaenoic Acid) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์สมอง

ประโยชน์น้ำมันปลา Fish Oil โอเมก้า 3 หรือ Omega 3

       โอเมก้า 3 มีความสามารถน่าสนใจหลายประการโดยเฉพาะฤทธิ์ต่อจิตใจและสมอง งานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยที่หดหู่ซึมเศร้า สามารถมีอารมณ์ดีขึ้นได้ใน 4 เดือนเมื่อได้รับอาหารที่มีส่วนผสมของโอเมก้า 3 กรดไขมันโอเมก้า 3กระตุ้นการสร้างสารเคมีในสมองชื่อซีโรโทนิน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการซึมเศร้าได้
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอร์รอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ ที่เป็นอันตราย ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายเฉียบพลัน และเส้นเลือดในสมองแตก
- ช่วยป้องกันอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- ลดความหนืดของเกร็ดเลือด และลดปริมาณสารไฟบรินในเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดในกระแสเลือด
- ช่วยลดความเสี่ยง ป้องกันมะเร็งเต้านม และอาจช่วยในการรักษาด้วย
- ช่วยลดบรรเทาอาการคันและแห้งของโรคสะเก็ดเงิน
- ลดการต้านเนื้อเยื่อที่ปลูกถ่าย ในผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ
- ช่วยในการลดความถี่และความรุนแรงของโรคปวดศรีษะไมเกรน
- ต่อต้านผลร้ายจากสารผโพรสตาแกลนดิน (ลดภูมิต้านทานและเพิ่มการเติบโตของเนื้องอก)
- ช่วยป้องกันหลอดเลือดแดงแข็ง
- ช่วยให้ผิว ผม และเล็บมีสุขภาพดี
- ช่วยบรรเทาอาการโรคข้ออักเสบ รูมาทอยด์
โอเมก้า 3  น้ำมันปลา
Read more →

วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557

อาหารเสริมมิใช่ยารักษาโรค

,
สุดยอดอาหารเสริม
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือ อาหารเสริม จัดเป็นอาหารประเภทหนึ่ง ที่ใช้รับประทานโดยตรงนอกเหนือจากการรับประทานอาหารหลักตามปกติเพื่อเสริมสารบางอย่าง มักอยู่ในรูปลักษณะเป็นเม็ด แคปซูล ผง เกล็ด ของเหลว หรือลักษณะอื่น และมีจุดมุ่งหมายสำหรับบุคคลทั่วไปที่มีสุขภาพปกติ มิใช่สำหรับผู้ป่วย และไม่ควรให้เด็กและสตรีมีครรภ์รับประทาน ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาทิ น้ำมันปลา สาหร่ายแดง ปลาซาร์ดีน ถั่วลันเตา กลูโคแมนแนน ไคโตซาน เส้นใยอาหาร คอลลาเจนอัดเม็ด ชาเขียวชนิดสกัดบรรจุแคปซูล โค เอ็นไซม์คิวเท็น แคปซูล ฯลฯ จัดเป็นอาหารที่มีคุณประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งต่อสุขภาพ นอกเหนือจากคุณสมบัติและประโยชน์ของอาหารทั่วๆ ไป
ข้อสำคัญการรับประทานอาหารเสริม ให้ได้ผลดีที่สุด คือ ควรเลือกอาหารเสริมให้ถูกชนิดและเหมาะสมกับอายุ สภาพร่างกาย สภาพการดำเนินชีวิตและสภาวะแวดล้อมของผู้ที่รับประทาน
บิลเบอร์รี่บำรุงสายตา
ก่อนที่เราจะรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ก็ควรที่จะต้องรู้จักว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้น เป็นเพียงทางเลือกหนึ่ง ที่ไม่ใช่การทดแทนการรับประทานอาหารให้ครบมื้อที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพได้ แต่เสริมให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น และไม่ใช่ยารักษาโรค โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะรับประทานเพื่อความปลอดภัย เพราะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในท้องตลาดปัจจุบันมีทั้งวิตามินรวมและแร่ธาตุ สมุนไพร พวกสารต้านอนุมูลอิสระ เส้นใยอาหารต่างๆ ดังนั้นเราจึงควรรู้ว่าในวิตามินหรือแร่ธาตุแต่ละตัวนั้น ช่วยเสริมในด้านใดบ้าง
ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ควรจะเลือกดูว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมที่แนะนำต่อวัน (RDI) เพื่อป้องกันการสะสมในร่างกาย พร้อมกันนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอในกรณีที่มีโรคประจำตัว หรือมียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ สำคัญสุดคือต้องศึกษาหาข้อมูลก่อนเสมอว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ จำเป็นแค่ไหน มีผลข้างเคียงหรือไม่ โดยควรตรวจสอบให้แน่ใจเพื่อไม่ก่อให้เกิดอันตราย

สุดยอดอาหารเสริม copy

สุดยอดอาหารเสริม
Read more →