วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2557

ทำไมต้องกินไข่เป็นอาหารเช้า

,
อาหารเช้า
คนที่กินไข่สัปดาห์ละ 4 ฟองมีคอเลสเตอรอลต่ำ กว่าคนที่กินไข่สัปดาห์ละ 1 ฟองหรือไม่กินไข่เลย กลไกที่อาจเป็นไปได้คือ ไข่มีโปรตีนสูงและมีไขมันอิ่มตัวค่อนข้างต่ำ ทำให้อิ่มนาน และความอิ่มนี่เองมีส่วนทำให้กินอาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อ อาหารประเภท "ผัดๆ ทอดๆ" ฯลฯ ลดลง ผู้ร้ายตัวจริงที่ทำให้คอเลสเตอรอลหรือไขมันในเลือดสูงคือ ไขมันอิ่มตัว เช่น กะทิ น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว น้ำมันหมู การกินเนื้อมากเกิน (เนื้อที่เห็นเป็นเนื้อแดงก็มีไขมันแฝงอยู่มาก) ฯลฯ และที่ร้ายที่สุดคือ ไขมันทรานส์หรือไขมันแปรสภาพ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการนำไขมันพืชไปเติมไฮโดรเจน ทำให้เกิดเป็นเนยขาว เนยเทียม ครีมเทียม (คอฟฟี่เมต) ที่ใช้ทำเบเกอรี ขนมกรุบกรอบ อาหารฟาสต์ฟูด แนวทางในการลดคอเลสเตอรอลหรือไขมันในเลือดหลักคือ การลดไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ รองลงไปคือ การออกแรง-ออกกำลังให้มากพอเป็นประจำ และการกินอาหารที่มีคอเลสเตอรอลให้น้อยลง
อาหารเช้า
ไข่แดงช่วยบำรุงสายตา เพราะมีสารลูทีน-ซีแซนทีน ทำให้ความเสี่ยงเป็นโรคตาเสื่อมสภาพ หรือตาบอดในคนสูงอายุลดลง ลูทีน-ซีแซนทีนเป็นสารพฤกษเคมีหรือสารคุณค่าพืชผักกลุ่ม "สีเหลือง-แสด" ช่วยปัองกันจอรับภาพ (retina / เรทินา) โดยทำหน้าที่เป็นตัวกรอง (คล้ายๆ กับเป็นแว่นกันแดดชั้นดี) แสงสีน้ำเงินหรือฟ้า และรังสี UV (อัลตราไวโอเลต / ultraviolet) ทำให้ความเสี่ยง (โอกาสเป็น) โรคตาเสื่อมสภาพ หรือตาบอดในคนสูงอายุ(age-related macular degeneration / ARMD) ลดลง แน่นอนว่า การหลีกเลี่ยงแสงแดดจ้า แสงไฟจ้า หรือการอยู่หน้าจอ TV, จอคอมพิวเตอร์นานๆ เป็นการดีที่สุด ทว่า ถ้าจำเป็นต้องทำงานกลางแดด ชมโทรทัศน์ หรือทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์วันละนานๆ การพักสายตาอย่างน้อยทุกๆ 1-2 ชั่วโมง และการกินอาหารที่มีลูทีน-ซีแซนทีนสูง เช่น ผักใบเขียว (เช่น บรอคโคลี ฯลฯ) ถั่วที่มีสีเขียว ข้าวโพด ฯลฯ ก็ช่วยได้มาก
อาหารเช้า ลดน้ำหนัก
ไข่ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากมีโปรตีนสูง ทำให้อิ่มนาน การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า คนที่กินไข่เป็นอาหารเช้ามีโอกาสลดน้ำหนักและเส้นรอบเอวสำเร็จมากกว่าคนที่กินขนมปังเป็นอาหารเช้า กลไกที่อาจเป็นไปได้คือ ไข่มีโปรตีนคุณภาพสูง ทำให้อิ่มนาน และอย่าลืมว่า ไม่ใช่กินอาหารเท่าเดิมแล้วเสริมไข่เข้าไป แต่ต้องใช้หลัก "อาหารทดแทน" ด้วย คือ กินไข่เข้าไป แล้วลดอาหารอย่างอื่นให้น้อยลงจึงจะได้ผล    

 

โปรตีนลดน้ำหนัก
Read more →

วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557

ทำไมต้องใส่แว่นกันแดด

,
ถนมอดวงตาจากแสงแดด

แว่นตากันแดดไม่ได้มีประโยชน์ด้านแฟชันอย่างเดียวเท่านั้น มันยังสามารถปัองกันการทำลายดวงตาอย่างถาวร จากการเสื่อมสภาพของดวงตาทั้งโรคต้อกระจก ต้อเนื้อ และการทำลายจอประสาทตา แว่นกันแดด ก็คือ "ตัวกันรังสียูวี" หรือที่เรียกว่า "ยูวีปรูฟ" (UV Proof)ซึ่งจะฉาบอยู่ที่เลนส์ของแว่นกันแดด เมื่อแว่นผ่านการฉาบยูวีปรูฟนี้แล้ว เลนส์จะกลายเป็นสีเหลืองอ่อนๆ แต่ที่เห็นเป็นแว่นสีชาหรือสีดำนั้น เป็นการย้อมสีใส่ลงไปเพื่อเพิ่มความสวยงามและเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองแสงเพิ่มเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวฉาบเพื่อป้องกันรังสียูวี  ไม่สามารถตรวจดูได้ด้วยตาเปล่าได้  จะต้องเป็นเครื่องตรวจเฉพาะเท่านั้น ที่จะบอกได้ว่าเลนส์ในแว่นกันแดดนั้นๆ มีประสิทธิภาพป้องกันยูวีได้หรือไม่ 

แว่นกันแดดมีประโยชน์อย่างไร หากจะซื้อเอาไว้สวมกันเป็นแฟชั่น ก็ไม่ต้องคำนึงอะไรมากครับ สวยถูกใจ กับเข้าชุดเก่งของคุณเป็นอันใช้ได้ แต่ถ้าคุณต้องการจะซื้อไปเพื่อ "กันแดด" จริงๆ ควรจะใส่ใจในการเลือกซื้อกันมากสักหน่อยครับ เพราะดวงตาเป็นอวัยวะบอบบางและต้องใส่ใจดูแลรักษาไม่ต่างจากอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกายเหมือนกัน

มีคำแนะนำง่ายๆ ในการเลือกซื้อแว่นตากันแดดมาฝากครับ
1. เลือกที่วัสดุโครงแว่นแข็งแรง ได้มาตรฐาน

2. ต้องฉาบตัวป้องกันรังสียูวี จะเลือกแบบที่ย้อมสีที่เลนส์ให้เป็นสีดำหรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าย้อมก็จะช่วยลดแสงจ้าลงไปได้ราวๆ ร้อยละ70
3 . หากเลือกได้อีกนิด ควรเลือกเป็นเลนส์แบบมัลติโค้ทไปเลย เพราะจะช่วยลดแสงสะท้อนได้ดี โดยเฉพาะหากใส่ขับรถ จะลดแสงสะท้อนจากกระจกหรือจากกันชนโครเมียมได้ดี ซึ่งส่งผลให้ปลอดภัยมากขึ้น


ดูแลดวงตาของคุณด้วยแว่นตากันแดดที่ได้มาตรฐานนะครับ 


สาหร่ายแดง  00123

Read more →

วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2557

กินอย่างไรไม่ให้มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง

,
คอเลสเตอรอลสูงกินอย่างไร
หากท่านไม่อยากให้มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง หรือไม่อยากเป็นโรคหัวใจขาดเลือด แน่นอนหากมีคอเลสเตอรอลสูงเกินไป ก็จะเป็นโรคหัวใจขาดเลือดได้ คงจะมีคำถามในใจต่อไปอีกว่า แล้วโรคหัวใจขาดเลือดมันอันตรายอย่างไร อันตรายของโรคหัวใจขาดเลือดก็คือ ทำให้คนเป็นโรคนี้มีอาการช็อก หมดสติ และเสียชีวิตได้ในที่สุด
    ทำไมจึงมีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง
    การกินอาหารไม่ถูกต้อง
              ชอบกินแต่อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงเป็นประจำ นอกจากนั้นยังชอบกินของมัน ๆ จากสัตว์ เช่น หนังไก่ หมูหัน ขาหมูมัน ๆ เป็นต้น ผู้ที่มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงมักจะเกิดในคนที่มีอายุ 40 กว่า
     กรรมพันธุ์
              ความผิดปกติในด้านกรรมพันธุ์ มีส่วนทำให้เกิดคอเลสเตอรอลสูงได้ สำหรับพวกที่เป็นทางกรรมพันธุ์นี้ อาจจะแสดงอาการผิดปกติตั้งแต่ยังเป็นเด็กอยู่
     โรคบางชนิด
              เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย และโรคตับ เป็นต้น ก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดคอเลสเตอรอลในเลือดสูงได้
    แต่ไม่ว่าคอเลสเตอรอลในเลือดจะสูง จากสาเหตุใดก็ตาม ก็สามารถคุกคามทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัว จนทำให้เป็นโรคหัวใจขาดเลือดได้เหมือนกัน
    จากสาเหตุ 3 ประการที่ทำให้มีคอเลสเตอรอลสูงนั้น จะเห็นว่าการควบคุมเรื่องอาหารเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด ที่เราสามารถจะทำได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมาก เข้าสู่วัยเลข 4 เลข 5 กันแล้ว ควรต้องระวังในเรื่องอาหารการกินไว้บ้าง ทั้งการกินอาหารในชีวิตประจำวันและตามงานเลี้ยงต่าง ๆ ที่ได้รับเชิญ ควรเลือกกิน และกินต่อพอประมาณ ไม่กินอาหารมัน ๆ และอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง การกินอาหารที่ถูกต้องจะมีส่วนสำคัญในการควบคุมระดับคอเลสเตอรอล
    พ่อบ้านที่ขยันออกไปกินข้าวนอกบ้าน พบปะเพื่อนฝูงในวงเหล้ายิ่งต้องระวังจงหนัก เพราะจากข้อมูลการศึกษาพบว่า ผู้ชายจะเป็นโรคหัวใจขาดเลือดมากกว่าผู้หญิง
คอลเลสเตอรอลสูง หัวใจขาดเลือด
    จะทราบได้อย่างไรว่า มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง
      วิธีที่ดีที่สุดจะทราบผลแน่นอนว่ามีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงหรือไม่ ก็คือวิธีการเจาะเลือดตรวจ
      เพื่อวัดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด

    ไขมันก็ใช่แต่จะให้โทษไปหมด ไขมันเป็นอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย ถ้ารู้จักกินแต่เพียงพอ ไม่มากเกินความต้องการของร่างกาย เพราะไขมันเป็นอาหารที่ให้ทั้งพลังงานความร้อนแก่ร่างกาย สามารถนำไปสร้างน้ำดีและสร้างฮอร์โมนได้ และไขมันในร่างกายยังช่วยป้องกันการสูญเสียความร้อนของร่างกาย ไขมันยังให้กรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายสำหรับช่วยให้การเติบโต และสุขภาพของผิวหนังทารกและเด็ก ยังเป็นแหล่งเกิดและช่วยการดูดซึมของวิตามินที่ละลายในไขมัน อย่างเช่น วิตามินเอ ดี อี เค และนอกจากนั้น ไขมันยังช่วยเพิ่ม รส กลิ่น และเนื้อสัมผัสของอาหารให้ดีขึ้น

 


โอเมก้า3 น้ำมันปลา
Read more →

วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

อดนอนสาเหตุความเสื่อมโทรมทางร่างกาย

,
อดนอนสาเหตุร่างกายเสื่อมโทรม
หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่คิดว่า “การอดนอน” เป็นเรื่องธรรมดา หาเวลาไปนอนชดเชยเอาก็ได้นั้น เป็นความเชื่อที่ผิดมหันต์ทีเดียว เพราะเบื้องต้นที่นอกจากจะทำให้ผิวรอบดวงตาและใบหน้าดูหมองคล้ำแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน รวมทั้งเป็นสาเหตุก่อโรคร้ายแรงตามมาอีกมากมาย กล่าวคือ

1. การอดนอนติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น โดยมีลักษณะคล้ายกับอาการของโรคเบาหวาน และควบคุมได้ยาก
2. การอดนอนส่งผลให้การหลั่งฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ลดลง ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่คอยควบคุมความรู้สึกหิวหรืออิ่ม โดยเมื่อระดับเลปตินลดลงก็จะทำให้ความอยากอาหารเพิ่มขึ้นทั้งๆ ที่รับประทานอาหารจนได้รับพลังงานที่เพียงพอแล้วก็ตาม

อดนอนพักผ่อนน้อย

3. การนอนไม่พอ ส่งผลต่อเม็ดเลือดขาวและกลไกการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันของร่างกาย จึงทำให้เจ็บป่วยง่ายเมื่อเจอเชื้อโรคต่างๆ
4. การอดนอนเป็นสาเหตุของโรคอ้วน เพราะส่งผลกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนที่กระตุ้นการเจริญเติบโตทางกายภาพ และคอยควบคุมสัดส่วนของไขมันต่อกล้ามเนื้อในร่างกาย คนที่อดนอนบ่อยๆ จะทำให้ฮอร์โมนชนิดนี้หลั่งน้อยลง แต่ทำให้อยากอาหารมากขึ้น
5. การอดนอนมากๆ จะไปเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งต่างๆ ได้ เนื่องจากเมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอก็จะส่งผลทำให้ฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายทำงานแปรปรวน ซึ่งเป็นสาเหตุก่อโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งเต้านม เป็นต้น
นอกจากสารพัดโรคที่มาพร้อมกับการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอดังกล่าวแล้ว การอดนอนยังมีผลข้างเคียงต่อสภาพร่างกายด้วย คือ ทำให้ร่างกายไม่ตื่นตัว มีอาการปวดหัวระหว่างวัน รวมทั้งทำให้ใบหน้าเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย แน่นอนว่าการป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ อย่าอดนอนโดยไม่จำเป็น แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรปฏิบัติตามวิธีปฏิบัติตัวเมื่อต้องอดนอน ดังนี้
1. กินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบีและซี เนื่องจากการเข้านอนไม่เป็นเวลาจะทำให้ต่อมไพเนียลที่มีทำให้หลับจะปั่นป่วน ร่างกายจึงเกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว จึงควรแก้ด้วยทานวิตามินบีและซี ซึ่งมีสารเซโรโทนินที่ทำให้สมองหายเครียด ซึ่งมีอยู่มากในข้าวกล้อง ผักผลไม้ หรือน้ำผลไม้คั้นสด หรืออาจจะทานวิตามินบี 100 วันละ 1 เม็ด และกินวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม 1 เม็ดหลังอาหารเช้าก็ได้
2. กินมื้อดึกเพื่อเสริมพลังงาน ด้วยอาหารเบาๆ และย่อยง่าย เช่น น้ำเต้าหู้อุ่นๆ โจ๊ก หรือน้ำธัญพืช เป็นต้น ไม่ควรทานอาหารไขมันสูง หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีไขมันอย่างโกโก้ เพราะเป็นอาหารประกอบด้วยไขมันที่ย่อยยาก
3. ไม่ควรแก้ง่วงด้วยเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และเข้านอนอทันทีหลังจากทำกิจกรรมต่างๆ เสร็จหมดแล้ว
4. เมื่ออดนอน ก็ไม่ควรชดเชยด้วยการนอนตื่นสาย เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายเซื่องซึม และสมองล้า จึงควรตื่นนอนตามเวลาปกติแล้วเติมความสดชื่นด้วยวิตามิน หรืออาหารที่ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า จำพวกโสม จะช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกาย และทำให้สมองปลอดโปร่งยิ่งขึ้น



สาหร่ายแดง
Read more →

วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

วิธีถนอมสายตาเวลาอยู่หน้าจอคอมนานๆ

,
วิธีถนอมสายตา
คอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการพักผ่อน คอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นอวัยวะอีกชิ้นส่วนของร่างกายเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลานี้สมาร์ทโฟน และเเท็บเลตการเป็นสิ่งที่ของที่เราขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน ชาวเน็ตทุกคนก็ต่างรู้ตัวกันเป็นอย่างดี ว่าอุปกรณ์ไอทีพวกนี้มีผลกระทบต่อตาของผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก ซึ่งวิธีการต่อไปนี้เป็นอีกข้อแนะนำที่ชาวเน็ตที่อยู่กับอุปกรณ์ไอที ต้องทำตามเป็นอย่างยิ่ง เพื่อสุขภาพของลูกตาคุณ


กะพริบตาให้ถี่ขึ้น
ทุกครั้งที่เราทำงานหรือพักผ่อนด้วยการการดูภาพจากหน้าจออุปกรณ์ไอที อัตราการกระพริบตาจะลดลงจาก 20-22 ครั้งต่อนาที เหลือ 6-8 ครั้ง ต่อนาทีเท่านั้น! การกะพริบตาให้บ่อยขึ้นจึงเป็นอีกวิธีที่ไม่ทำให้ตาคุณแห้งจนเกินไป หรืออาจหาน้ำตาเทียมมาหยอดตาก็ได้เพื่อความชุ่มชื้นของลูกตา
จัดวางระยะห่างคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม
ระยะห่างระหว่างหน้าจอกับตัวเราที่ปลอดภัยที่สุดคือระยะประมาณ 50 - 70 ซม. โดยวัดจากจุดศูนยืกลางของคอมพิวเตอร์ และวัดระดับสายตากับจอคอมพิวเตอร์ให้ห่าง 4 - 9 นิ้ว เป็นอย่างน้อย

เลือกอยู่ในที่เเสงสว่างเพียงพอ
ควรตั้งคอมพิวเตอร์ให้อยู่ด้านข้างของหน้าต่าง เพื่อลดแสงตกสะท้อนบนหน้าจอ และควรปิดไฟบางดวงลงที่รบกวนการใช้งานคอมพิวเตอร์เพราะปัญหาที่พบเกิดจากการที่ตาเราได้รับแสงสว่างมากเกินไป ถ้ามีมูลี่ก็ควรใช้มูลี่ปรับแสงให้ได้ผ่านเข้ามาเพียงบางส่วนเท่านั้น งดใช้เครื่องเฟอร์นิเจอร์ที่มีการสะท้อนแสง

ควรพักสายตาบ้าง
ไม่ว่าคุณจะเล่นอุปกรณ์ไอที ที่มีหน้าจอแบบไหนก็ตาม คุนก็ควรหาเวลาเปลี่ยนอิริยาบถบ้างทุกๆชั่วโมง โดยละสายตาออกจากหน้าจอก มองไปพื้นที่ไกลเป็นเวลา 10-20 วินาที แล้วค่อยกลับมามองระยใกล้ ทำสลับไปสลับมา เพื่อสายตาได้ผ่อนคลาย สำหรับวิธีการบริหารกล้ามเนื้อตามีวิธีการง่าย ดังต่อไปนี้
- กลอกตาขึ้น-ลงช้าๆ 6 ครั้ง เป็นอย่างต่ำ โดยระหว่างการทำอย่าเกร็งลูกตาโดยเด็ดขาด
- กอกตาไปขวา-ซ้ายสุด สลับกันไปมา ทำซ้ำ 3 ครั้งเป็นอย่างน้อย
- ชูนิ้วขึ้นมาห่างจากสายตาประมาณ 8 นิ้วจากระดับสายตา จ้องมองไปที่ไกลๆราว 10 ฟุต สลับกลับใช้ตามองระยะใกล้ที่นิ้วอีกครั้ง ซึ่งใช้เวลามในการมองแต่ละครั้งประมาณ 2-3 วินาที ทำให้ได้ 10 ครั้ง และหยุดพัก 1 วินาที ทำวนไปวนมาประมาณ 3 รอบ
- กลอกตาเป็นวงกลมช้าๆตามเข็มนาฬิกา - ทวนเข็มนาฬิกา ให้ได้ประมาณ 10 ครั้ง และหยุกพัก 1 วินาที่ ทำให้ได้ 3 รอบเป็นอย่างน้อย

    วิธีการถนอมสายตาของคุณที่ดีที่สุด คงไม่อะไรจะดีกว่าการที่คุณลุกจากหน้าจอ วางอุปกรณ์ไอทีทั้งหลายแหล่ลง แล้วเดินออกไปข้างนอก ยิ่งเป็นสถานที่กลางแจ้งยิ่งดี เพราะจะช่วยให้สายตาได้มีโกาสได้สัมผัสกับระดับแสงที่ต่างไปจากห้องที่ออกมา ทำให้สายตาและสมองผ่อนคลายมากขึ้น โดยอาจออกไปเดินเล่นสัก 18 นาที เเล้วค่อยมาทำงานหรือทำกิจกรมผ่อนคลายต่อ


วิธีถนอมสายตา
Read more →

วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2557

สุดยอดโปรตีน แหล่งโปรตีนชั้นยอด ถั่วลันเตา ไข่ และนม

,
โปรตีนลดน้ำหนัก
โปรตีนนูทรีเชค ความเหมือนที่แตกต่าง ปัจจุบัีนโปรตีน มีจำหน่ายหลายบริษัท แต่นูทรีเชค เป็นโปรตีนที่อร่อยที่สุด มีสารอาหารที่พอเหมาะพอดี มีใยอาหารพร้อม ซึ่งคุณไม่ต้องซื้อไฟเบอร์เพิ่ม และมีเวย์โปรตีนสำหรับเสริมสร้างกล้ามเนื้อ โดยคุณไม่ต้องซื้อเวย์โปรตีนเพิ่ม จึงมีราคาถูกกว่า รวมอยู่ในกล่องเดียว ไม่ต้องซื้อผลิตภัณฑ์หลายๆตัว และที่สำคัญที่สุด มีกรดอะมิโนครบถ้วน เพราะเป็นโปรตีนจาก 3 แหล่ง และที่สำคัญนูทรีเชค ยังเหมาะสำหรับ ผู้ป่วยพักฟื้น ร่างกายไม่สามารถทำงานได้ปกติ ต้องการสารอาหารที่ดูดซึมได้ทันที เพราะนูทรีเชค คิดค้นมาเพื่อเป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยพักฟื้น ผู้ที่ผ่าตัดปลูกถ่ายปอดและหัวใจ
โปรตีนจากพืชเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับการเลือกรับประทานโปรตีน
- โปรตีนจากถั่วลันเตา ได้รับสมญานามว่า เป็นราชาแห่งโปรตีนในพืชผัก เสมือนทานเนื้อสัตว์
- เวย์โปรตีน เป็นโปรตีนจากนม ที่มีพลังชีวภาพมากที่สุด
- โปรตีนจากไข่ จากไข่ไก่ที่เพาะเลี้ยงเป็นพิเศษ เพื่อให้มีระดับโอเมก้า 3 และ 6 ที่สมดุล เหมือนกับภายในสมองของมนุษย์
ลดน้ำหนักด้วยวิธีง่ายๆ

ทานโปรตีนนูทรีเชค เพื่อการลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน


โปรตีนชั้นยอด
Read more →

อาหารบำรุงสมอง โอเมก้า3 มีความสำคัญอย่างไร

,
โอเมก้า3 น้ำมันปลา
สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย หากสมองได้รับการดูแลรักษาที่ดีย่อมเป็นผลดีต่อสุขภาพของคนๆนั้น เรื่องอาหารการกินเป็นปัจจัยหนึ่งทีมีผลต่อการทำงานของสมอง การรู้จักเลือกกินอาหารที่มีสารอาหารช่วยบำรุงสมองจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารบำรุงสมองแล้วนำไปใช้ในการซ่อมแซมหรือทำให้การทำงานและสุขภาพของสมองเจริญเติบโตแข็งแรงสามารถทำงานตามหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สารอาหารบำรุงสมองที่ได้จากอาหารบำรุงสมองที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมีหลายชนิด แต่สารอาหารบำรุงสมองที่คนส่วนมากจะรู้จักกันดีคือ โอเมก้า-3 (Omega-3) ที่มีอยู่ในปลาทะเลน้ำลึก นอกจากโอเมก้า-3 แล้วยังมีสารอาหารที่มีคุณสมบัติในการบำรุงสมองชนิดอื่นๆ อีกหลายชนิด
โอเมก้า 3
น้ำมันปลาโอเมก้า 3 เป็นผลิตภัณฑ์แนวหน้าที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนเสริมให้กับทุกคนในครอบครัว เพราะน้ำมันปลาโอเมก้า 3 นี้ (จริง ๆ ท่าจะเรียกแบบเต็มยศต้องเรียกว่า โอเมก้าไมนัสทรี) มีกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายเราสร้างเองไม่ได้ต้องได้จากอาหาร คือกรดไขมันจำเป็น EPA (Eicosapentaenoic Acid) ที่ช่วยลดโคเลสเตอรอล มี DHA (Docosahexaenoic Acid) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์สมอง

ประโยชน์น้ำมันปลา Fish Oil โอเมก้า 3 หรือ Omega 3

       โอเมก้า 3 มีความสามารถน่าสนใจหลายประการโดยเฉพาะฤทธิ์ต่อจิตใจและสมอง งานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยที่หดหู่ซึมเศร้า สามารถมีอารมณ์ดีขึ้นได้ใน 4 เดือนเมื่อได้รับอาหารที่มีส่วนผสมของโอเมก้า 3 กรดไขมันโอเมก้า 3กระตุ้นการสร้างสารเคมีในสมองชื่อซีโรโทนิน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการซึมเศร้าได้
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอร์รอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ ที่เป็นอันตราย ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายเฉียบพลัน และเส้นเลือดในสมองแตก
- ช่วยป้องกันอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- ลดความหนืดของเกร็ดเลือด และลดปริมาณสารไฟบรินในเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดในกระแสเลือด
- ช่วยลดความเสี่ยง ป้องกันมะเร็งเต้านม และอาจช่วยในการรักษาด้วย
- ช่วยลดบรรเทาอาการคันและแห้งของโรคสะเก็ดเงิน
- ลดการต้านเนื้อเยื่อที่ปลูกถ่าย ในผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ
- ช่วยในการลดความถี่และความรุนแรงของโรคปวดศรีษะไมเกรน
- ต่อต้านผลร้ายจากสารผโพรสตาแกลนดิน (ลดภูมิต้านทานและเพิ่มการเติบโตของเนื้องอก)
- ช่วยป้องกันหลอดเลือดแดงแข็ง
- ช่วยให้ผิว ผม และเล็บมีสุขภาพดี
- ช่วยบรรเทาอาการโรคข้ออักเสบ รูมาทอยด์
โอเมก้า 3  น้ำมันปลา
Read more →

วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557

อาหารเสริมมิใช่ยารักษาโรค

,
สุดยอดอาหารเสริม
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือ อาหารเสริม จัดเป็นอาหารประเภทหนึ่ง ที่ใช้รับประทานโดยตรงนอกเหนือจากการรับประทานอาหารหลักตามปกติเพื่อเสริมสารบางอย่าง มักอยู่ในรูปลักษณะเป็นเม็ด แคปซูล ผง เกล็ด ของเหลว หรือลักษณะอื่น และมีจุดมุ่งหมายสำหรับบุคคลทั่วไปที่มีสุขภาพปกติ มิใช่สำหรับผู้ป่วย และไม่ควรให้เด็กและสตรีมีครรภ์รับประทาน ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาทิ น้ำมันปลา สาหร่ายแดง ปลาซาร์ดีน ถั่วลันเตา กลูโคแมนแนน ไคโตซาน เส้นใยอาหาร คอลลาเจนอัดเม็ด ชาเขียวชนิดสกัดบรรจุแคปซูล โค เอ็นไซม์คิวเท็น แคปซูล ฯลฯ จัดเป็นอาหารที่มีคุณประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งต่อสุขภาพ นอกเหนือจากคุณสมบัติและประโยชน์ของอาหารทั่วๆ ไป
ข้อสำคัญการรับประทานอาหารเสริม ให้ได้ผลดีที่สุด คือ ควรเลือกอาหารเสริมให้ถูกชนิดและเหมาะสมกับอายุ สภาพร่างกาย สภาพการดำเนินชีวิตและสภาวะแวดล้อมของผู้ที่รับประทาน
บิลเบอร์รี่บำรุงสายตา
ก่อนที่เราจะรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ก็ควรที่จะต้องรู้จักว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้น เป็นเพียงทางเลือกหนึ่ง ที่ไม่ใช่การทดแทนการรับประทานอาหารให้ครบมื้อที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพได้ แต่เสริมให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น และไม่ใช่ยารักษาโรค โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะรับประทานเพื่อความปลอดภัย เพราะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในท้องตลาดปัจจุบันมีทั้งวิตามินรวมและแร่ธาตุ สมุนไพร พวกสารต้านอนุมูลอิสระ เส้นใยอาหารต่างๆ ดังนั้นเราจึงควรรู้ว่าในวิตามินหรือแร่ธาตุแต่ละตัวนั้น ช่วยเสริมในด้านใดบ้าง
ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ควรจะเลือกดูว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมที่แนะนำต่อวัน (RDI) เพื่อป้องกันการสะสมในร่างกาย พร้อมกันนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอในกรณีที่มีโรคประจำตัว หรือมียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ สำคัญสุดคือต้องศึกษาหาข้อมูลก่อนเสมอว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ จำเป็นแค่ไหน มีผลข้างเคียงหรือไม่ โดยควรตรวจสอบให้แน่ใจเพื่อไม่ก่อให้เกิดอันตราย

สุดยอดอาหารเสริม copy

สุดยอดอาหารเสริม
Read more →

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สาหร่ายแดง มีสารต้านอนุมูลอิสระ อันทรงประสิทธิภาพ

,
สาหร่ายแดง สารต้านอนุมูลอิสระ

สาหร่ายสีแดง ที่ได้รับการเพาะเลี้ยงจากหมู่เกาะ ในประเทศสวีเดน โดยมีผลการรับรองทางวิทยาศาสตร์ รับรองว่า แอสตาแซนธิน สามารถปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระ สาเหตุของความเสื่อมถอย ของร่างกายหลายประการ อาทิ ผิวพรรณเหี่ยวย่น ริ้วรอยก่อนวัย ร่างกายอ่อนล้า สายตาฝ้าฟาง ขณะที่ผลบิลเบอร์รี่ จากป่าในสวีเดน ซึ่งมีสารแอนโธไซยานิน อันมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอันดีเลิศ ช่วยบำรุงสายตา ทำให้การมองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น
สาหร่ายแดง ( แอสตาแซนธิน ) @ บิวเบอร์รี่  การสกัดสารต้านอนุมูลอิสระ อันทรงประสิทธิภาพ
กระบวนการ คือ นำเอาสาหร่ายที่โตเต็มที่ มาอยู่ในสภาวะกดดัน เช่น การอบรังสียูวี เพื่อให้เกิดการสังเคราะห์ สารแอสตาแซนธินในสาหร่าย หลังจากนั้นจะเกิดเป็นสาหร่ายสีแดง ที่อุดมไปด้วยสารแอสตาแซนธินขึ้น นำมาทำให้แห้ง และบดละเอียดให้เป็นผง แล้วนำมาบรรจุในแคปซูล เป็นสวีดิช บิวตี้ คอมเพล็กซ์ สารต้านอนุมูลอิสระ อันทรงประสิทธิภาพ


สาหร่ายแดง

Astaxanthin @ Bilberry - แอสตาแซนธิน @ บิลเบอร์รี่ ประโยชน์อื่นๆ
- ป้องกันต้อหิน ต้อกระจก ต้อลม ลดแรงดันในลูกตา ลดความเจ็บปวดจากการบวมในลูกตา
- ป้องกันโรคเบาหวาน โรคไทฟอยด์ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ โรคความดันโลหิตสูง และ ระบบหายใจผิดปกติ
- ป้องกันเส้นเลือดขอด ลดการบวม เสริมสร้างความแข็งแรงของผนังหลอดเลือด
  ช่วยสร้างเนื้อเยื่อ เส้นเอ็น และกระดูกอ่อน
- แก้การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ ช่วยบรรเทาอาการผิดปกติในลำไส้ใหญ่ โรคเริม ท้องผูก
  โรคกระเพาะอาหาร แผลในปาก
- เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ ควบคุมน้ำตาลในเลือด ช่วยลดเกล็ดเลือด ต่อต้าน โธไซยาโนไซเดอร์
- ป้องกันความเสื่อมของปลายประสาท ป้องกันการอักเสบ เซลที่มีการเสริมโทรม จากโรคมะเร็ง


สาหร่ายแดง ต้านอนุมูลอิสระ
ผลิตภายใต้มาตรฐานการผลิตชั้นสูง เพื่อให้ได้มาซึ่ง แอสตาแซนธิน (สารต้านอนุมูลอิสระ) ชนิดเข้มข้นและบริสุทธิ์
Read more →

โอเมก้า3 สำคัญอย่างไร

,
น้ำมันปลา โอเมก้า3 

โอเมก้า 3 (Omega 3 น้ำมันปลา ) เป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่อาจจะยังไม่ทราบรายละเอียดว่า
โอเมก้า 3 นั้นคืออะไรและดีต่อร่างกายอย่างไร ทำไมถึงดีต่อร่างกาย บทความนี้จะนำเรื่องเหล่านี้มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้เพื่อนๆ สาวๆ ได้รู้และสามารถจัดการเสาะหาของดีมีประโยชน์ให้กับร่างกาย และในเมื่อร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ก็ย่อมทำให้หน้าตาสดชื่นผ่องใสสวยงามไปด้วยเป็นเรื่องต่อเนื่องกัน

ร่างกายของคนเรานั้น ต้องการสารพัดสารอาหารและสารเคมีเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง ในขณะที่สารเคมีบางอย่างนั้นเป็นคุณแก่ร่างกายเราในขณะที่สารเคมีบางอย่างก็เป็นโทษซึ่งเราก็จะต้องหลีกเลี่ยงในการได้รับเข้าไป สารเคมีบางอย่างไม่เพียงแต่เป็นคุณแต่สามารถมีฤทธิ์ทำลายสารเคมีที่เป็นโทษแก่ร่างกายเราได้ก็มี ไขมันก็เช่นเดียวกัน มีทั้งไขมันชนิดที่ไม่ดีที่สร้างปัญหาให้กับร่างกายเรา และชนิดที่ดีที่เป็นคุณประโยชน์กับเรา ที่แย่หน่อยก็คือร่างกายของเราไม่สามารถสร้างสารอาหารที่จำเป็นทั้งหมดได้เองรวมทั้งกรดไขมันที่จำเป็นบางตัวด้วย ต้องอาศัยการได้รับจากภายนอก ไม่ว่าจะด้วยการทานอาหารที่มีกรดไขมันจำเป็นเข้าไป หรือจากการรับประทานโดยตรงในรูปของยาที่สกัดมาแล้วก็ตาม


โอเมก้า 3 น้ำมันปลา

ประโยชน์ของ โอเมก้า 3

การรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 อย่างเหมาะสมจะทำให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติ ร่างกายของเราจำเป็นต้องมีระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีอย่างเหมาะสม และมีประโยชน์ดังนี้

1. ช่วยลดการตอบสนองของร่างกายต่ออาการอักเสบ ลดอัตราการเป็นโรคหัวใจและมะเร็ง

2. โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อการสร้างผนังเซลล์ มีประโยชน์ต่อระบบประสาทและสายตา

3. โอเมก้า 3 มีอยู่จำนวนมากในสมองของเรา เป็นตัวที่ช่วยในเรื่องความจำ ความสามารถของสมอง อารมณ์ และพฤติกรรม การเรียนรู้ การคิดการจดจำ และการพัฒนาของสมองในวัยเด็ก และเนื่องจากโอเมก้า 3 มีมากในไขมันจากปลา เราจึงมักเคยได้ยินว่าการรับประทานปลาทำให้ฉลาด ก็คงเป็นเรื่องที่อิงมาจากเหตุผลข้อนี้นั่นเอง

4. โอเมก้า 3 ช่วยรักษาอาการผิดปกติบางอย่างได้เช่น เบาหวาน โรคปวดข้อ โรคกระดูกพรุน คอเลสเตอรอลสูง ความดันโลหิตสูง โรคหืด ช่วยการทำงานของระบบฮอร์โมน ลดอาการภูมิแพ้ต่างๆ

5. โอเมก้า 3 จะช่วยในการลดการอุดตันของหลอดเลือด ซึ่งช่วยลดอาการหัวใจวายและสมองขาดเลือดได้

น้ำมันปลา โอเมก้า3
Read more →

วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เคล็ดลับหุ่นสวยของวัยทำงาน

,
เคล็ดลับหุ่นสวย
เคยสังเกตตัวเองกันบ้างไหม ก่อนที่จะเริ่มหันมาเป็นสาวออฟฟิศแบบเต็มตัว คุณเป็นแค่แม่สาวไซด์เอส ตัวเล็กน่ารัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปมาสำรวจร่างกายอีกที คุณก็มีเพื่อนสนิทคนใหม่ที่คอยมาเกาะแกะชนิดว่าไปไหนไปกัน มีฉันมีเธอ นั้นก็คือ เจ้าเซลลูไลท์ก้อนโตที่พอกพูนตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย สะบัดเท่าไหร่ก็ไม่หลุดซะที ถ้าเป็นแบบนี้คงไม่ไหวแน่ การเลือกรับประทานอาหารในแต่ละวันเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสาวทำงานอย่างเรา สิ่งที่เราทานเข้าไปจะสามารถสะท้อนถึงสุขภาพของเราโดยตรง เอาล่ะ งั้นมาดูกันสิว่าเราควรเลือกทานอะไรกันดี

 สดชื่นยามเช้า

          อาหารมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด หากทุกเช้าคุณต้องรีบเร่งมากมายล่ะก็ แนะนำเป็นขนมปังโฮลวีทสักแผ่น แอปเปิ้ลสักผล แล้วตามด้วยน้ำส้มคั้นสักแก้ว ดีกว่าปล่อยให้ท้องว่างแล้วมารวบรัดมื้อกลางวันเลยทีเดียว

อาหารมื้อเช้า คุมน้ำหนัก

          ตอนเช้าเป็นช่วงที่เมตาบอลิซึมของคุณกำลังทำงานที่จุดสูงสุด ร่างกายต้องการเชื้อเพลิงเพื่อเริ่มต้นใหม่ มาเติมพลังรับวันใหม่ให้สดใส โดยการหันมาทานอาหารเช้ากันดีกว่า เพราะการไม่ทานอาหารเช้า แต่ไปหนักที่มื้ออื่น สามารถทำให้คุณสาวๆ อ้วนได้แบบไม่รู้ตัว

มื้อกลางวันแสนสุข

          ในหนึ่งวันเราควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ คุณคงเคยได้ยินคำพูดเหล่านี้ตลอดเวลา แต่จะเลือกทานอย่างไรให้เหมาะกับตัวคุณเองนี่สิเรื่องใหญ่ แนะนำว่า เมื่อมื้อกลางวันแสนสุขมาถึง คุณควรเลือกทานคาร์โบไฮเดรตบ้างเล็กน้อย เพื่อที่จะได้มีพลังงานและความอึดในการทำงาน เติมไขมันและโปรตีนเข้าไปในมื้อนี้ด้วย จะทำอิ่มนานขึ้น สุดท้ายอย่าลืมทานผักด้วยนะคะ มันจำเป็นต่อระบบขับถ่าย ช่วยในการย่อยสลาย ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคในระบบย่อยอาหาร ที่สำคัญจะช่วยทำให้คุณรู้สึกอิ่มยาวนานไปถึงเลิกงานเลยทีเดียว

 เติมความสดใสระหว่างวัน

          ถือว่าไม่ผิดกติกา ถ้าคุณจะแอบซุกของกินเล่นไว้ในลิ้นชักบ้าง แต่ต้องคำนึงด้วยว่ามันจะไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย เลือกแอปเปิ้ลกาล่าเล็กๆ สักผล ถั่วลิสง ลูกพรุนสกัด ส้ม เครื่องดื่มชีวจิต ให้ร่างกายได้รับวิตามินจากผลไม้เหล่านี้บ้าง มันจะช่วยเพิ่มพลังแก่ร่างกาย ทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น สดใสขึ้น แถมทานเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนยิ่งเยอะยิ่งดี

 ปาร์ตี้มาเยือน

          หลังจากที่งานยุ่งอีรุงตุงนังมาทั้งอาทิตย์ พอถึงวันศุกร์แห่งชาติ สาวๆ คงอยากผ่อนคลายกันบ้าง อันนี้ก็ไม่มีใครห้ามคุณได้ ถ้าอยากดื่มแอลกอฮอล์ก็ได้ค่ะ แต่ให้ดื่มในปริมาณที่พอเหมาะพองามจะดีที่สุด เครื่องดื่มประเภทนี้จะให้พลังงานสูงพอๆ กับทานอาหารมื้อใหญ่เลยทีเดียว ระวังกันหน่อยนะคะสำหรับสาวปาร์ตี้ตัวยง ผลเสียของมันนอกจากจะทำให้อ้วนขึ้นแล้ว คุณยังเสี่ยงต่อการมีไขมันในเส้นเลือดสูงก่อนวัยอันควรด้วยค่ะ รู้อย่างนี้แล้วคราวหน้าจะยกแก้วก็ให้ท่องไว้ แอลกอฮอล์คือศัตรูตัวร้ายกาจของฉัน เปลี่ยนมาดื่มน้ำผลไม้หรือน้ำเปล่าแทนจะดีกว่า


โปรตีนควบคุมน้ำหนัก
Read more →

วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กินยาอย่างถูกวิธี

,
กินยาอย่างไรให้ถูกวิธี
ยา เป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ซึ่งยาแต่ละชนิดก็มีวิธีการใช้ที่แตกต่างกัน      เช่น ยาทา ยาฉีด ยากิน เป็นต้น หากเราใช้ยาไม่ถูกต้อง หรือใช้โดยไม่ระมัดระวัง อาจทำให้เกิดโรคอื่นแทรกซ้อนและทำให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการกินยา เราจึงควรมีความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาดังกล่าว คอลัมน์ยาเพื่อชีวิตฉบับนี้จึงขอแนะนำวิธีการกินยาที่ถูกต้อง

1. ยาก่อนอาหาร ให้รับประทานก่อนอาหาร ประมาณ 30 – 60 นาที (หรือถ้าลืมให้รับประทานหลังอาหาร 2 ชั่วโมง) ยาที่ให้กินก่อนอาหาร มักเป็นยาที่มีข้อจำกัด หากกินลงไปแล้วมีอาหารอยู่ในกระเพาะอาหารจะลดการดูดซึมของยาลง ทำให้ยาออกฤทธิ์ไม่ดีเท่าที่ควร หรือไม่ได้ผลเลย จึงแนะนำให้กินตอนท้องว่าง นอกจากนั้น ยาที่ใช้ป้องกันการคลื่นไส้อาเจียน ต้องกินก่อนอาหาร 30 นาที จึงจะได้ผลเต็มที่ และป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนได้

2.  ยาพร้อมอาหาร หรือหลังอาหารทันที

                        2.1 ยาพร้อมอาหาร ให้รับประทานอาหารครึ่งหนึ่งแล้วรับประทานยา แล้วจึงรับประทานอาหารต่อจนอิ่ม

                        2.2 ยารับประทานหลังอาหารทันที ให้รับประทานอาหารคำสุดท้าย แล้วรับประทานยาทันที           ยาที่แนะนำให้รับประทานหลังอาหารทันทีจะเป็นยาที่มีฤทธิ์ระคายเคืองกระเพาะอาหารหรือทำให้เกิดอาการไซ้ท้อง หรือคลื่นไส้อาเจียน ถ้ารับประทานตอนท้องว่าง การรับประทานยาหลังอาหารทันทีจะช่วยป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารด้วย

            3. ยาหลังอาหาร ให้รับประทานหลังอาหาร 15 – 30 นาที

กินยาให้ถูกวิธี

            4. ยาระหว่างมื้ออาหาร ให้รับประทานยาก่อนหรือหลังอาหาร 1-2 ชั่วโมง โดยถ้าเลือกรับประทานยาเป็นก่อนอาหารแล้ว ครั้งต่อไปก็ต้องรับประทานก่อนอาหารทุกครั้งของการรักษาคราวนั้นๆ

            5. ยาก่อนนอน รับประทานก่อนเข้านอน 15-30 นาที

            6. ยาตามอาการต่างๆ เช่น พาราเซตามอล ทุก 4-6 ชั่วโมง เวลาปวด หมายความว่า รับประทานครั้งละ 2 เม็ด เมื่อมีอาการปวด ถ้าต่อมามีอาการปวดอีกแต่ยังไม่ถึง 4-6 ชั่วโมงไม่ควรรับประทานยานั้นซ้ำอีก เพราะอาจจะเกิดพิษจากยาเกินขนาดได้ ต้องรอให้ครบอย่างน้อย 4 ชั่วโมงจึงรับประทานยาครั้งต่อไปได้

                        การลืมรับประทานยาครั้งหนึ่ง ให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าใกล้ถึงเวลามื้อต่อไปแล้ว ให้ข้ามมื้อที่ลืมไปเสีย อย่าเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่าในมื้อต่อไปเป็นอันขาด นอกจากนี้ยังมีข้อควรระวัง หรือคำแนะนำในการรับประทานยาต่างๆ ที่ควรใส่ใจ เช่น
                        - ควรรับประทานยาหลังอาหาร 1-2 ชั่วโมง เช่น ยาลดกรดสำหรับผู้ป่วยที่มีแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้แพทย์ยังสั่งให้กินยาลดกรดก่อนนอนด้วย เพราะในช่วงกลางคืนจะมีการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารออกมากเช่นกัน

                        - รับประทานยานี้แล้ว ควรดื่มน้ำมากๆ อาจแบ่งได้เป็น 2 กรณี คือ ยาที่มีผลข้างเคียงทำให้คลื่นไส้อาเจียนมาก นอกจากควรกินยาหลังอาหารทันทีแล้ว ต้องดื่มน้ำตามมากๆ เพื่อลดผลข้างเคียงของยา

                        - รับประทานยาแล้วอาจง่วงนอน ยาเหล่านี้มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานยนต์ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล และที่สำคัญการรับประทานยาที่มีผลต่อระบบประสาทเหล่านี้ควรต้องงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด

                        - ควรรับประทานยาติดต่อกันทุกวันจนยาหมดยาบางชนิดเป็นยาสำหรับบรรเทาอาการ จะกินนานแค่ไหนขึ้นกับชนิดและความรุนแรงของโรค แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาและกำหนดให้

                        - เคี้ยวยาให้ละเอียดก่อนกลืน ได้แก่ ยาลดกรดชนิดเม็ด หรือยาขับลมชนิดเม็ด จะมีคำแนะนำให้เคี้ยวยาให้ละเอียดก่อนกลืน เพื่อหวังผลให้ยาที่ถูกเคี้ยวแล้วนั้นกระจายตัวในส่วนของทางเดินอาหารได้อย่างทั่วถึง ทำให้ได้ผลจากการรักษาที่ดีที่สุด

สาหร่ายแดง สารต้านอนุมูลอิสระ
Read more →

วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ขั้นตอนสั่งซื้อสินค้าออริเฟลมออนไลน์

,
สั่งซื้อสินค้าออริเฟลม 

การสั่งซื้อสินค้าออริเฟลม เมื่อสมาชิกออริเฟลมได้รับรหัสสมาชิกเรียบร้อยแล้ว สมาชิกสามารถเข้าสู่ ระบบเวปของบริษัทฯ ได้ทันที
ที่เวป www.oriflame.co.th  ซึ่งในระบบสมาชิกสามารถดูรายละเอียดของสินค้าออริเฟลม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของอาหารเสริม
ออริเฟลมเวลเนส หรือ ออริเฟลมคอสเมติกส์  รายละเอียดสินค้า และการสั่งซื้อสินค้าด้วยตัวเอง ด้วยวิธีง่ายๆ เพียงเลือกสินค้าต่างๆ ที่คุณต้องการ ระบบจะประมวลผล ส่วนลดให้แก่สมาชิก และเลือกวิธีการจัดส่งสินค้า ตามที่คุณต้องการ
ขั้นตอนง่ายๆ ในการเข้าระบบ เมื่อคุณได้รับ รหัสสมาชิกออริเฟลม เรียบร้อยแล้ว

ขั้นตอนแรก  ให้สมาชิกเข้าไปที่  www.oriflame.co.th
สั่งซื้อสินค้าออริเฟลม

เข้าสู่ระบบสมาชิก โดยใช้ รหัสสมาชิก ออริเฟลม
ส่วน Password  XXXX  >>  ใช้เลขที่บัตรประชาชน 4 ตัวท้ายของสมาชิกเอง

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ระบบ สมาชิกออริเฟลม 
สั่งสินค้าออริเฟลม 
เมื่อเข้าสู่ระบบ สังเกตุ  จะมีชื่อของสมาชิกแสดงอยู่ ที่หน้าเวป
   ในหน้าเวป นี้สังเกตุ จะมีเมนู สั่งซื้อสินค้าด่วน อยู่ด้านบน     คลิก >>> สั่งซื้อด่วน

 

เมื่อสมาชิก คลิก สั่งซื้อด่วน  หน้า Page จะเปลี่ยนเป็นแบบฟอร์มสินค้า 
สังเกตุ  จะมี ชื่อ – สกุล  ของสมาชิกออริเฟลม แสดงในหน้า Page 
กรอก รหัสสินค้า  และ  จำนวนของสินค้าที่ต้องการ
สั่งสินค้าออริเฟลม
เมื่อกรอกรหัสสินค้า เรียบร้อยจะมีเมนู อยู่ด้านล่างแบบฟอร์ม เพื่อนำรายการสินค้า เข้าสู่ตะกร้าสินค้า

หลังจาก คลิกเมนูนำสินค้าเข้าตะกร้า  หน้า Page จะเปลี่ยนแสดงรายละเอียดของสินค้า ที่เลือกไว้
พร้อมแสดง ราคาส่วนลด และคะแนน ของสินค้านั้นๆ
 
ทำรายการสินค้าออริเฟลม
เมื่อตรวจสอบรายการสินค้า ถูกต้องตามการ  คลิก ทำการเช็คเอาท์  เพื่อยืนยันรายการสินค้า

หน้า Page จะเปลี่ยนหลังจาก ยืนยันรายการสั่งซื้อสินค้า ในหน้าสุดท้าย จะแสดงสินค้า
สรุปยอดที่ต้องชำระ
   และในหน้านี้  สมาชิกจะต้องเลือกวิธีการจัดส่งสินค้า  

ในหน้าสรุปรายการสินค้านี้  มีเมนูย่อยอยู่ด้านล่าง  ให้ทางสมาชิกเลือก การจัดส่งสินค้าเป็นแบบไหน
ในขั้นตอนที่ 1  เลือก รูปแบบการจัดส่งสินค้า  เมื่อคลิก ที่เมนูตามภาพ
                    จะมีเมนูย่อยแตกออกมา ให้เลือก  จัดส่งสินค้าที่บ้าน
ในขั้นตอนที่ 2  เลือก  วิธีการจัดส่งสินค้า
 
เลือกสินค้าออริเฟลม

เมื่อเลือก วิธีการจัดส่งสอนค้าเรียบร้อย  คลิกเมนู ยืนยันการสั่งซื้อสินค้า รอโอนเงิน
หลังจากนั้นทาง บริษัทฯ จึงทำการจัดส่งสินค้า
ที่หน้า นี้ สมาชิก สามารถส่งสำเนาการสั่งซื้อ มาที่ Email ของสมาชิก หรือ Print เป็นเอกสาร


รายละเอียดการจัดส่ง
ต่างจังหวัด โอนเงินก่อนจัดส่ง  เลือกการจัดส่งที่เว็บบริษัท

ส่งด่วน จัดส่งโดยบริษัทขนส่ง (13)  - ได้รับสินค้าภายใน 1-2 วัน นับจากวันโอนเงิน แนะนำวิธีนี้
    ซื้อสินค้าเกิน 2,500 บาท ค่าส่ง ฟรี     ซื้อสินค้าเกิน 1,500 บาท มีค่าส่ง 80 บาท     ซื้อสินค้าน้อยกว่า 1,500 บาท มีค่าส่ง 150 บาท

ส่งธรรมดา จัดส่งทางไปรษณีย์ (12)   - ได้รับสินค้าค่อนข้างช้าประมาณ 7-10 วัน นับจากวันโอนเงิน
    ซื้อสินค้าเกิน 1,500 บาท ค่าส่ง ฟรี     ซื้อสินค้าน้อยกว่า 1,500 บาท มีค่าส่ง 80 บาท

กรุงเทพ ปริมลฑล  เลือกการจัดส่งที่เว็บบริษัท
ให้เลือก จัดส่งโดยมอเตอร์ไซค์ (11)   - ได้รับสินค้าภายใน 1-2 วัน (รับสินค้าและชำระเงินกับมอเตอร์ไซค์)
    ซื้อสินค้าเกิน 1,500 บาท ค่าส่ง ฟรี     ซื้อสินค้าน้อยกว่า 1,500 บาท มีค่าส่ง 80 บาท


ติดต่อออริเฟลม
Read more →

วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สาหร่ายแดง สารต้านอนุมูลอิสระอันทรงประสิทธิ์ภาพ

,
สารต้านอนุมูลอิสระ
ASTAXANTHIN & BILBERRY - แอสตาแซนธิน สาหร่ายแดง & บิลเบอร์รี่
สวีดิช บิวตี้ คอมเพล็กซ์ (สาหร่ายแดง) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอันเลื่องชื่อ ด้วยการผสานพลังของ แอสตาแซนธิน และแอนโธไซยานิน ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ประสิทธิภาพสูงที่สุด เหนือกว่าผลิตภัณฑ์อื่นใด สกัดจาก สาหร่ายสีแดง ที่ได้รับการเพาะเลี้ยงจากหมู่เกาะ ในประเทศสวีเดน โดยมีผลการรับรองทางวิทยาศาสตร์ รับรองว่า แอสตาแซนธิน สามารถปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระ สาเหตุของความเสื่อมถอย ของร่างกายหลายประการ อาทิ ผิวพรรณเหี่ยวย่น ริ้วรอยก่อนวัย ร่างกายอ่อนล้า สายตาฝ้าฟาง ขณะที่ผลบิลเบอร์รี่ จากป่าในสวีเดน ซึ่งมีสารแอนโธไซยานิน อันมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอันดีเลิศ ช่วยบำรุงสายตา ทำให้การมองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น

ประโยชน์เมื่อทานแอสตาแซนธิน (สาหร่ายแดง) เป็นประจำ
ปกป้องเซลล์ในร่างกาย ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ
  โรคเบาหวาน เป็น สภาวะความผิดปกติที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง มีสาเหตุมากจาก การทำงานผิดปกติของฮอร์โมนอินซูลิน (สร้างจากตับอ่อน) ซึ่งมีหน้าที่ในการเก็บน้ำตาล กลับไปไว้ที่ตับและกล้ามเนื้อ ส่งผลให้มีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงตามมา
   มีผลการศึกษาพบว่า อนุมูลอิสระที่เหนี่ยวนำ มาจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงนั้น เป็นส่วนหนึ่ง ในการส่งผลให้มีการดำเนินของโรค และอาการแทรกซ้อน จากโรคเบาหวานขึ้น ได้แก่ ตาบอด ไตวาย ถูกตัดแขนหรือขา

ฟื้นฟูสภาพผิว
แอสตาแซนธิน มีความสำคัญในการ ช่วยคงความสดใส และดูมีสุขภาพดีของผิวหนัง อาหารที่ไร้ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินและแร่ธาตุ รวมถึง มลภาวะ การสูบบุหรี่ และรังสียูวี ส่งผลให้ผิวหนังของเราหม่นหมอง และไร้ชีวิตชีวา แอสตาแซนธิน ปกป้องผิวหนัง จากการเข้าทำร้ายของอนุมูลอิสระ ยิ่งไปกว่านั้น ยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิว หลังจากการโดนแสงแดด และ รังสียูวีเอ ยูวีบีแผดเผาอีกด้วย พบว่า รังสียูวี และมลพิษทางอากาศ จะดึงเอาสารอาหารที่จำเป็น ต่อการใช้เป็นเกราะกำบังของผิวหนัง ผลที่ตามมาคือ ผิวหนังจะเริ่มแห้ง และไร้สุขภาพดูหมองคล้ำ แอสตาแซนธิน จะออกฤทธิ์ช่วยให้ผิวหนังที่แห้งคล้ำ กลับมีความชุ่มชื้น เพิ่มน้ำและความยืดหยุ่น มอบน้ำมันธรรมชาติแก่ผิว และช่วยให้เกิดความสมดุลของเกราะกำบังผิว

ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อดวงตา
แอสตาแซนธิน ลดความเมื่อยล้าของดวงตา และช่วยปรับโฟกัสของดวงตาได้อย่างไร? แอสตาแซนธิน ต่อต้านการทำลายของอนุมูลอิสระ เนื่องจาก มีคุณสมบัติละลายในไขมัน จึงสามารถซึมผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยื่อหุ้มเซลล์สองชั้นที่กล้ามเนื้อตา แอสตาแซนธิน ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ที่เส้นเลือดฝอยที่มาเลี้ยงจอตา กล่าวคือ เลือดจึงสามารถมาหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อ ที่ทำหน้าที่ปรับย่อขยายเลนส์ตาได้ดีขึ้น

ชะลอความชรา ลดรอยเหี่ยวย่น
กลไกการทำงานของ แอสตาแซนธิน พิสูจน์แล้วว่า ช่วยป้องกันเซลล์ จากการเกิดการแก่ก่อนวัย และการถูกทำลาย ดังนั้น ผลประโยชน์ที่ทราบในปัจจุบัน ได้แก่ บำรุงสุขภาพผิว เพิ่มความแข็งแรง ของการทำงานของกล้ามเนื้อ และ เพิ่มความทนทาน ช่วยลดอาการของภาวะธาตุพิการ (อาหารไม่ย่อย) ช่วยในการมองเห็น


บิลเบอร์รี่บำรุงสายตา
Read more →

วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

โปรตีนจากถัวลันเตา ควบคุมน้ำหนักอย่างธรรมชาติ

,
โปรตีนลดน้ำหนัก
       โปรตีนเป็นส่วนประกอบของร่างกาย ที่มีมากเป็นอันดับสองรองจากน้ำ หากเอาร่างกายมนุษย์ไปตากแห้ง จนน้ำระเหยไปหมด สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือ โปรตีนนั่นเอง สำหรับในร่างกายนั้น กล้ามเนื้อจะมีโปรตีนมากเป็น 1 ใน 3 ของโปรตีนทั้งหมด  ในกระดูกมีโปรตีนมากเป็น 1 ใน 5  ส่วนผิวหนังมีโปรตีนเป็น 1 ใน 10 ของทั้งหมด
       โปรตีนในพืชและสัตว์จะแตกต่างกันตรงที่ พืชสามารถสร้างโปรตีนได้เอง โดยเอาไนไตรเจนจากดิน รวมเข้ากับคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ แล้วสร้างเป็นโปรตีน แต่สำหรับสัตว์นั้น หากต้องการโปรตีน มีทางเดียวก็คือต้องกินสัตว์ด้วยกัน หรือไม่ก็กินพืชเอา
โปรตีนลดน้ำหนัก
โปรตีนจากถั่วลันเตา เป็นสารอาหารในรูปแบบผงรสชาติอร่อย ใช้ผสมกับเครื่องดื่ม เพื่อช่วยสำหรับการลดน้ำหนักอย่างมีสุขภาพดี และให้พลังงานเพิ่มเติม มอบความสมบูรณ์แบบและความสะดวกสบาย เสริมกับอาหารมื้อหลัก สนุกได้ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหาร ที่สำคัญอย่างครบถ้วนในทุกๆวัน

โปรตีนจากพืชเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับการเลือกรับประทานโปรตีน และจัดได้ว่าเป็นโปรตีนที่ไร้ไขมัน และมีประโยชน์สูง คนเราควรได้รับโปรตีนอยา่งน้อย 50 กรัม ในแต่ละวัน (คำนวณจากคนที่มีน้ำหนัก 50-80 กก.)
พบว่าโปรตีนในนูทรีเชค อันได้แ่ก่
- โปรตีนจากถั่วลันเตา ได้รับสมญานามว่า เป็นราชาแห่งโปรตีนในพืชผัก เสมือนทานเนื้อสัตว์
- เวย์โปรตีน เป็นโปรตีนจากนม ที่มีพลังชีวภาพมากที่สุด
- โปรตีนจากไข่ จากไข่ไก่ที่เพาะเลี้ยงเป็นพิเศษ เพื่อให้มีระดับโอเมก้า 3 และ 6 ที่สมดุล เหมือนกับภายในสมองของมนุษย์

โปรตีน เวย์โปรตีน
Read more →

วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บิลเบอร์รี่ วิตามินบำรุงสายตา

,
บิวเบอร์ลี่บำรุงสายตา
ผลไม้บิลเบอร์รี่ ซึ่งมีประโยชน์ สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องสายตา และการมองเห็น

- เพิ่มสมรรถภาพในการมองเห็นในที่มืด ช่วยลดระยะเวลาในการปรับแสงสว่างไปสู่ที่มืด หรือที่มีแสงสลัวได้ เร็วขึ้น
- การมองเห็นภาพคมชัดขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเอนไซน์หลายตัว ที่อยู่ภายในจอประสาทตา (Retina)ทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
- ลดความเสี่ยงของการตาบอด ช่วยลดปัญหาสำหรับผู้ที่ต้องเผชิญกับแสงสว่างจ้ามากๆ หรือ แสงแฟลช ซึ่งสามารถทำลายจอประสาทตาจนอาจทำให้ตาบอดได้

Astaxanthin @ Bilberry - แอสตาแซนธิน @ บิลเบอร์รี่ ประโยชน์อื่นๆ

- ป้องกันต้อหิน ต้อกระจก ต้อลม ลดแรงดันในลูกตา ลดความเจ็บปวดจากการบวมในลูกตา
- ป้องกันโรคเบาหวาน โรคไทฟอยด์ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ โรคความดันโลหิตสูง และ ระบบหายใจผิดปกติ
- ป้องกันเส้นเลือดขอด ลดการบวม เสริมสร้างความแข็งแรงของผนังหลอดเลือด
  ช่วยสร้างเนื้อเยื่อ เส้นเอ็น และกระดูกอ่อน
- แก้การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ ช่วยบรรเทาอาการผิดปกติในลำไส้ใหญ่ โรคเริม ท้องผูก
  โรคกระเพาะอาหาร แผลในปาก
- เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ ควบคุมน้ำตาลในเลือด ช่วยลดเกล็ดเลือด ต่อต้าน โธไซยาโนไซเดอร์
- ป้องกันความเสื่อมของปลายประสาท ป้องกันการอักเสบ เซลที่มีการเสริมโทรม จากโรคมะเร็ง

วิตามินบำรุงสายตา
Read more →