| มีคำแนะนำดีๆเกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภค ที่ช่วยลดอัตราการเป็นมะเร็ง เห็นว่ามีประโยชน์จึงขออนุญาตนำมาเผยแพร่ดังนี้ครับ ปัจจัยการเกิดโรคมะเร็งนั้นพบว่ามีปัจจัยที่สำคัญแบ่งได้เป็น 4 กลุ่มได้แก่ |
| 1. เกิดจากพฤติกรรมการบริโภคร้อยละ 30 |
| พฤติกรรมการบริโภคที่ดีสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งได้ถึงร้อยละ 30 มีคำแนะนำ 9ประการดังนี้ |
| 1. กินผักหลากสีทุกวัน สารที่ก่อมะเร็งจะทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระ( Free radicals) ซึ่งสารนี้จะทำปฏิกิริยากับโมเลกุลสำคัญในร่างกายเช่น โปรตีน ไขมัน และดีเอ็นเอ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ ซึ่งสารอนุมูลอิสระเหล่านี้จะถูกกำจัดได้ โดยสารต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidant) ที่มีในผักและผลไม้ ผักแต่ละสีแต่ละชนิดมีประโยชน์และให้คุณค่าที่แตกต่างกัน ควรรับประทานผักให้หลากหลายหรือให้ครบ 5 สี จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อสุขภาพ ตัวอย่างของผักและสารสีต่างๆได้แก่สารสีแดง ในมะเขือเทศ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า ไลโคปีน (Lycopene) ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งปอด สารสีเหลืองส้ม ในฟักทอง แครอท มีสารต้านอนุมูลอิสระแคโรทีนนอยด์ (Beta-carotene) และอุดมไปด้วยวิตามินที่สามารถต้านการเกิดสารอนุมูลอิสระในร่างกาย การบริโภคควรทำให้สุกก่อน สารสีเขียว ในคะน้า บล็อคโคลี่ ผักบุ้ง กวางตุ้ง ตำลึง มีวิตามินซี และวิตามินเอ สารสีม่วง ในกะหล่ำสีม่วง ชมภู่มะเหมี่ยว มะเขือม่วง ดอกอัญชัญ มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็งสารสีขาว ในมะเขือขาวเปราะ ผักกาดขาว ดอกแค มีเบตาแคโรทีนสูง ช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระ |
| 2. ขยันหาผลไม้เป็นประจำ เช่นเดียวกับผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ 3. ทำอาหารธัญพืชและเส้นใย ธัญพืชเต็มเมล็ด คือ ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีหรือขัดสีน้อยที่สุดทำให้มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่นใยอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ ไฟโตนิวเตรียนท์ และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ตัวอย่างได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวสาลี ข้าวโพด ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ลูกเดือย นอกจากนี้ใยอาหารในธัญพืชยังทำหน้าที่สำคัญในการพาสารต่างๆที่เป็นโทษต่อร่างกายซึ่งติดบริเวณลำไส้ให้ขับถ่ายออกไป จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งทางเดินอาหารและลำไส้ใหญ่ 4. ใส่เครื่องเทศเสริมรสชาติอาหาร เครื่องเทศหมายถึง ส่วนต่างๆของพืชที่นำมาใช้เป็นเครื่องปรุงอาหารหรือเพื่อให้อาหารมีกลิ่นหอม สารประกอบอินทรีย์ที่เป็นกลิ่นหอมของเครื่องเทศนั้นมาจากส่วนที่เป็นน้ำมัน(Fixed oil) และน้ำมันหอมระเหย (volatile oil) ส่วนรสชาติที่เผ็ดร้อนนั้นมาจากส่วนที่เป็นยาง (Resins) นอกจากนี้ยังมีสารหลายชนิดซึ่งมีสรรพคุณลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันได้ 5. เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ ชาเขียวได้มาจากการนำยอดใบชาสดมาผ่านกระบวนการอบ เพื่อลดความชื้นโดยไม่ผ่านการหมัก ในชาเขียวมีสาร Polyphenol และ Flavonoids หรือที่เรียกว่าCatechins ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ การดื่มชาเขียวควรดื่มทันทีหลังจากชงเสร็จเนื่อจากถ้าทิ้งไว้ ชาเขียวจะทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ทำให้สูญเสียคุณค่าไป |